FAQ
Q2/2023
ในช่วงครึ่งปีหลังของ ปี 2566 แนวโน้มธุรกิจของธุรกิจศัลยกรรมในประเทศกลับมาดีขึ้น สังเกตได้จากหลังจาก ผ่านพ้นช่วงโควิดผู้คนจะนิยมเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศเป็นจำนวนมากในช่วงหยุดยาว ซึ่งมาจากความต้องการท่องเที่ยวยังต่างประเทศหลังจากที่ไม่ได้เดินทางเป็นเวลา 2 ปี และหลังจากนี้ผู้คนจะกลับมาให้ความสนใจ ในด้านศัลยกรรมความงามเพิ่มขึ้น รวมไปถึงความชัดเจนทางด้านการเมืองทำให้แนวโน้มการบริโภคภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้นซึ่งจะส่งผลดีต่อบริษัทโดยตรง อีกทั้งในภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวมากขึ้นประกอบกับกำลังเข้าสู่ช่วง High Season เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าต่างชาติเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันลูกค้าต่างชาติมีสัดส่วนต่อรายได้ของบริษัทประมาณ 25 % โดยทางบริษัทได้มีการเตรียมความพร้อมในทุกด้านเพื่อรองรับความต้องการ ที่จะเกิดขึ้นในทุกการให้บริการ และอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญคือภายในไตรมาส 4 ทาง MASTER จะเริ่มรับรู้กำไร ของธุรกิจที่เข้าไปลงทุนในช่วงก่อนหน้า คือทาง Wind clinic และตัว Kin corporation ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้น ในการเติบโตในอีกรูปแบบหนึ่งที่จะส่งผลทำให้แนวโน้มการเติบโตในช่วงครึ่งปีหลังเพิ่มสูงขึ้น
ในส่วนของการใช้งานห้องผ่าตัด( Operating Room) เดิมจะใช้งานอยู่ที่ 18 ชั่วโมง ปัจจุบันใช้งานอยู่ที่ 12 ชม. อัตราการใช้ห้องจากเดิม 94 เปอร์เซ็นต์และปัจจุบันอยู่ที่ 60 - 70เปอร์เซ็นต์ แต่หากช่วงปลายปีมีอัตราการใช้ห้องถึง 70-80 เปอร์เซ็นต์ เราสามารถขยายเวลาห้องผ่าตัดเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความสามารถในการรับรองลูกค้าที่เพิ่มขึ้นได้
จากข้อมูลในไตรมาส 2 จะพบว่าค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ลดลงเป็นผลมาจากการควบคุมประสิทธิภาพการใช้จ่ายที่ดีขึ้นและรายได้ที่เพิ่มขึ้น ส่วนในไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 ด้านค่าใช้จ่ายทางการตลาดบริษัทมีการควบคุมให้ไม่เกิน 10 % ทั้งนี้เกิดจากการบริหารจัดการรายจ่ายที่ดีขึ้น และรายได้ที่สูงขึ้น ทำให้สัดส่วนรายจ่ายต่อรายได้ลดลง
อายุเฉลี่ยของแพทย์ที่โรงพยาบาลประมาณ 35 ปี โดยมีสัดส่วนค่าธรรมเนียมแพทย์ ( Doctor fee ) โดยประมาณ 20-22 % ในส่วนของอัตรากำไรขั้นต้น(gross profit margin) ทางด้านศัลยกรรมจะสูงกว่าบริการดูแลผิวพรรณ เนื่องจากในส่วนของบริการดูแลผิวพรรณจะมีการแข่งขัน ด้านราคาของยาที่ใช้จึงทำให้ต้นทุนทางด้านบริการดูแลผิวพรรณมีราคาสูงกว่า
แพทย์ของทางมาสเตอร์จะเป็นแพทย์ Fulltime และทำสัญญาระยะยาว (ประมาณ 10 – 20 ปี) โดยทั้งสองฝ่ายมีข้อตกลงที่จะสนับสนุนและเติบโตไปด้วยกัน และอีกทั้งทางเรามีการพัฒนาความรู้ให้กับทีมแพทย์ ทำให้แพทย์ มีชื่อเสียง มีระบบปฏิบัติการที่ดี ร่วมกับวัฒนธรรมองค์กรที่ทำให้แพทย์เกิด จึงทำให้แพทย์อยากร่วมงานกับทางเรา
จุดที่แตกต่างของการศัลยกรรมของ MASTER กับศัลยกรรมที่เกาหลีคือ
- จำนวนผลงานที่ออกมาเป็นจำนวนมากและเป็นที่พอใจของลูกค้านั้นทำให้เกิดสเกลการบอกต่อ ซึ่งตรงนี้ส่งผลบวกในเรื่องของการตลาด และจำนวนผู้ใช้บริการของ MASTER
-
เรื่องแพทย์ MASTER เรามีระบบการพัฒนาของแพทย์ โดยเรามีทีมอาจารย์แพทย์ที่เน้นเรื่องการสอนและทักษะฝีมือของแพทย์
จำนวนแพทย์ มีความหลายหลายทั้งในเรื่อง Style และราคาเราสามารถขายได้ในระดับราคาที่ค่อนข้างกว้าง เช่น จมูกเราสามารถทำได้จากตั้งแต่ราคาหลักหมื่น เป็นจนถึงราคาหลักล้านทำให้คนไข้สามารถเลือกใช้บริการได้ตามความเหมาะสมของงบประมาณ
- เรื่องของการบริการ สั่งเกตุได้จากคนไข้ที่มาทำศัลยกรรมที่ MASTER แล้วมักจะมาทำศัลยกรรมด้านอื่นๆที่เราต่อเนื่อง
เนื่องจากทางบริษัทให้ความสำคัญในด้านของความยั่งยืน (sustainability) ดังนั้นลักษณะกิจการที่ทางบริษัทสนใจจะพิจารณาเข้าไปร่วมลงทุนจะเป็นลักษณะของกิจการที่จะต้องช่วยกันสนับสนุนในกิจการทั้งสองฝ่าย และเป็นกิจการที่มีพันธมิตรในท้องถิ่นและมีฐานลูกค้าเดิมในพื้นที่มีความแข็งแกร่งเพื่อช่วยในการผลักดันให้บริษัทเติบโต โดยใช้หลักการ อันได้แก่
- Cross selling คือ การโฟกัสในเรื่องความแตกต่างของสินค้าบริการ ที่สามารถมาส่งเสริมกันได้ เช่น Rattinan medical center ที่มีจุดเด่นด้านหัตถการเกี่ยวกับ Body contouring และการตัดกระเพาะ และ Dr.Chen international surgery hospital ที่มีจุดเด่นด้านหัตถการเกี่ยวกับ Facial contouring
- Cross border คือ การขยายขอบเขตการให้บริการในต่างพื้นที่ ตัวอย่างเช่น Wind clinic ที่ตั้งอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี
- Cross synergy คือ ธุรกิจในเรื่องที่จำเป็น และส่งเสริมธุรกิจการแพทย์ ในเรื่องอื่นๆ เช่น กรณี Kin corporation ที่เข้ามาส่งเสริม ทาง MASTER และ Partners ในเรื่องการตลาด
อัตราการเติบโตรายได้ของ Wind Clinic ในช่วง 2 เดือนล่าสุดอยู่ที่ 30% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนมาสเตอร์เข้าไปลงทุน ซึ่งในขนาดนี้ทางเราได้มีแผนการในการเพิ่มบริการต่างๆ เพื่อเข้าไปเสริมกับทาง Wind clinic ในการช่วยทำให้มีการเติบโตที่ดี และปริมาณเพิ่มสูงขึ้นเรี่อยๆ และในปีหน้าจะมีการปรับเปลี่ยนเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านศัลยกรรมของทางภาคอิสานตอนล่าง
ในปีนี้ทางบริษัทจะมีดีลที่จะเกิดขึ้นอย่างน้อยอีกประมาณ 3 ดีลและมีหลายขนาด โดยมีขนาดตั้งแต่มูลค่าต่ำกว่า 100 ล้านบาทไปจนถึงมูลค่าสูงกว่า 100 ล้านขึ้นไป และสิ่งที่สำคัญบริษัทที่จะร่วมธุรกิจกับทางเราจะต้องมีการเติบโตร่วมกันอันเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย รวมไปถึงคำนึงถึงผลประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นทุกท่านด้วย
เนื่องจากที่ผ่านมามีทั้งนักลงทุนและกองทุนจากทั้งในและต่างประเทศเป็นจำนวนมากให้ความสนใจที่จะเข้ามาลงทุน ทางเราจึงมีแผนในการเพิ่มทุนจดทะเบียน เพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่องและเตรียมพร้อมที่จะเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ (SET) แต่ทั้งนี้จะเข้าเมื่อไหร่นั้นต้องขอพิจารณาตามความเหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง
Q1/2023
สำหรับเป้าหมายการเติบโตในครึ่งปีหลัง Master แบ่งออกเป็น 2 ส่วน
- ส่วนที่ 1 การเติบโตแบบ Organic บริษัทฯ เพิ่มห้องผ่าตัดตามที่ได้ระบุไว้ในแผนการใช้เงิน IPO จำนวน 10 ห้อง แล้วเสร็จและเริ่มใช้ในเดือนมิถุนายน 2566 ส่งผลให้ในครึ่งปีหลังมีห้องผ่าตัดรองรับการให้บริการมากถึง 17 ห้อง บริษัทฯ ได้วางแผนทางการตลาดเพื่อเตรียมพร้อมในการขยายฐานลูกค้าให้สอดคล้องกับจำนวนห้องผ่าตัด ทำให้ยอดผู้มาใช้บริการต่อวันมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และรายได้จากการประกอบกิจการโรงพยาบาลเติบโตอย่างก้าวกระโดดในครึ่งปีหลังนี้
- ส่วนที่ 2 การเติบโตแบบ Inorganic บริษัทฯ ศึกษาข้อมูลและวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการเติบโตทั้งการควบรวมกิจการแนวดิ่ง (Vertical Integration) ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และการควบรวมกิจการแนวราบ (Horizontal Integration) โดยที่ยังมุ่งเน้นในธุรกิจทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ทั้งนี้ บริษัทฯ ใช้เวลาพิจารณาในทุกมิติที่เกี่ยวข้องอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการดำเนินการเป็นไปเพื่อประโยชน์ในการเติบโตร่วมกันของทั้ง 2 ฝ่าย
- การมีวัฒนธรรมการทำงานแบบ Professional sport team ที่ขับเคลื่อนการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความสามารถของสมาชิกทีม และการให้และรับ Feedback เพื่อพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
- การสร้างทีมแพทย์ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานของทาง MASTER และการปั้นแพทย์เป็น STAR ให้มีผลงานเป็นที่ชื่นชอบและมีชื่อเสียงเป็นที่ประจักษ์ในวงกว้าง โดยมีสัญญาเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อใจ (Trust) ระหว่างกัน ส่งผลให้เกิดการพัฒนาร่วมกันอย่างมีประสิทธิผล
- การกระจายงาน (Delegate) ด้านกลยุทธ์การตลาด ด้วยแนวคิด “คลินิกเล็กในโรงพยาบาลใหญ่” เน้นการบอกต่อแบบปากต่อปาก โดยมีผลลัพธ์จากลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการที่ช่วยยืนยันให้กับผู้ที่กำลังศึกษาการทำศัลยกรรมให้มีความมั่นใจในผลงานของ MASTER มากขึ้น โดย MASTER สามารถเข้าถึงลูกค้าได้หลากหลายกลุ่ม ผ่านกลุ่มบุคคลที่เป็นผู้นำทางด้านความคิดที่มีชื่อเสียง (Influencer) ทำให้เข้าถึงลูกค้าได้มากกว่า 50 ล้านคนต่อเดือน
จากที่ยอดขายเพิ่มขึ้นส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของรายได้ อาทิเช่น ค่าประชาสัมพันธ์ ค่าการตลาด Online เป็นต้น ทั้งนี้ ในไตรมาส 1 ซึ่งอยู่ในช่วงต้นปีจะมีค่าใช้จ่ายในการจัดทำป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ (เพื่อให้ป้ายดูใหม่สีไม่ซีด) ทำให้สัดส่วนของค่าใช้จ่ายสูงขึ้นเมื่อเทียบกับรายได้ โดยค่าใช้จ่ายในส่วนนี้มีแนวโน้มลดลงในไตรมาส 2
ในไตรมาส 1 สัดส่วนรายได้ของลูกค้าคนไทยต่อลูกค้าต่างชาติอยู่ที่ ร้อยละ 80 และร้อยละ 20 ตามลำดับ และหลังจากเปิดประเทศคาดว่าจะมีจำนวนลูกค้าต่างชาติเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น และแม้ว่า MASTER มีนโยบายการตั้งราคาขายของลูกค้าคนไทยและลูกค้าต่างชาติเป็นแบบราคาเดียว (One price policy) แต่เมื่อพิจารณาราคาเฉลี่ยต่อบิลของลูกค้าต่างชาติ พบว่ามีราคาเฉลี่ยต่อบิลสูงกว่าลูกค้าชาวไทย โดยราคาเฉลี่ยต่อบิลของลูกค้าต่างชาติสูงถึง 350,000 บาท จึงส่งผลให้มีแนวโน้มในการขยายฐานลูกค้าต่างชาติเพิ่มมากขึ้น
MASTER ได้วางแผนขยายฐานลูกค้าต่างชาติ โดยการสร้างทีมการตลาดต่างประเทศเพื่อรองรับการทำการตลาดที่จะขยายฐานลูกค้ามากขึ้นในแต่ละภูมิภาคของโลก ผ่านสื่อ social media ของ MASTER และผลักดัน MASTER ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างของลูกค้าต่างชาติ ผ่านกลุ่มบุคคลที่เป็นผู้นำทางด้านความคิดที่มีชื่อเสียง (Influencer) รวมถึง Agency และ Partner ที่เฉพาะในแต่ละกลุ่มประเทศ
รายได้แยกตาม Business unit เทียบไตรมาส 1 ของปี 2565 และ 2566 พบว่า
- รายได้จากบริการด้านศัลยกรรม จำนวน 341.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 77.9
- รายได้จากบริการด้านดูแลผิวพรรณ จำนวน 41.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 184.3
- รายได้จากบริการด้านการปลูกผมและดูแลเส้นผม จำนวน 24.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 65.3
- รายได้จากบริการด้านการดูแลหลัง จากศํลยกรรม จำนวน 17.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 45.52
- รายได้จากการประกอบกิจกรรมโรงพยาบาลอื่น จำนวน 10.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 145.2
ในไตรมาส 1 ปี 2566 จำนวนชั่วโมงการผ่าตัด (Operation Hr.) คิดเป็น 18 ชั่วโมงต่อวัน โดยมีอัตราการใช้ห้องผ่าตัด (Capacity Rate) อยู่ที่ร้อยละ 94
MASTER มีทีมแพทย์ที่มีศักยภาพ เตรียมพร้อมรองรับการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยทีมแพทย์ปัจจุบันสามารถสนับสนุนและรังสรรค์ผลงานผ่านการผ่าตัดให้กับลูกค้าได้มากกว่าปัจจุบันถึง 2-3 เท่า
เนื่องจากปัจจุบันลูกค้าของ MASTER ร้อยละ 80 เป็นลูกค้าในประเทศ ที่มีกำลังซื้อสูงและเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการในการเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเอง ซึ่งการชะลอตัวทางเศรษฐกิจมีผลต่อแรงจูงใจดังกล่าวในระดับต่ำ อย่างไรก็ดี MASTER คาดการณ์ว่าทิศทางและจุดยืนในเรื่องการเป็นศูนย์กลางทางด้านการแพทย์ (Medical hub) และการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical tourism) ของประเทศไทย จะไม่ผันแปรตามการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองในขณะนี้ เนื่องจากทุกฝ่ายให้การสนับสนุนและมองว่าเป็นธุรกิจหลักที่จะขับเคลื่อนประเทศในอนาคต
ปัจจุบัน Wind clinic มี 2 สาขา โดยตั้งอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี และกรุงเทพมหานคร ย่านเกษตร นวมินทร์ โดยเป็นคลินิกความงามที่มีจุดเด่นด้านการดูแลผิวพรรณที่เป็นที่ยอมรับในกลุ่มลูกค้าที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก (เซเลป) ในจังหวัดอุบลราชธานี โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมากความสามารถ และทีมผู้บริหารที่พร้อมผลักดันให้ธุรกิจเติบโต และมีทัศนคติที่พร้อมพัฒนาและเปลี่ยนแปลง MASTER มองว่าการร่วมมือกับบริษัท มีแพลนดี จำกัด หรือ “Wind Clinic” จะส่งผลให้ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันเรียนรู้และพัฒนาต่อยอดร่วมกัน หรือที่เรียกว่า Win - Win พร้อมเติบโตและขยายสาขาไปยังพื้นที่อื่นๆในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างในอนาคต
Q4/2022
เป้าหมายรายได้ที่บริษัทได้วางแผนไว้ คือ 2200 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากการเติบโตแบบ Organic ที่มาจากการขยายห้องผ่าที่จะแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม 2566 โดยเพิ่มขึ้นจาก 7 เตียงมา 17 เตียง ซึ่งเป็นส่วนที่สร้างรายได้แกบริษัท มี Capacity มากขึ้นมากกว่าเดิมถึง 2 เท่า พร้อมแผนการทางการตลาดที่เตรียมไว้เพื่อให้เคสผ่าตัดต่อวันเพิ่มขึ้นหลังจากการขยายเตียงห้องผ่าตัดแล้วเสร็จ
ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มตามสัดส่วนจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น รวมถึงมีค่าใช้ป้าย Billboard ที่เพิ่มสูงขึ้นจากโอกาสทางการตลาดและผลประโยชน์พนักงาน โดยค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ในไตรมาส 1 ปี 65 มีแนวโน้มที่ลดลง
ในไตรมาส 4 ที่ผ่านมามีสัดส่วนรายได้จากลูกค้าคนไทยต่อลูกค้าต่างชาติอยู่ที่ 82:18 เปอร์เซนต์ และในไตรมาส 1 ปีนี้มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการเปิดประเทศ โดยกลุ่มลูกค้าส่วนมาก มาจากประเทศ CLMV ในส่วนของคนจีนมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันมีเคสผ่าตัดจำนวน 30-40 เคสต่อวัน ราคาเฉลี่ยต่อเคสอยู่ที่ 1x,xxx - 1,xxx,xxxx บาท ด้วยแต่ละหัตถการ หากรวมทุก Business unit เช่นการดูแลผิว คลินิกเพศชาย การรักษาอื่นๆจะอยู่ที่ 1xx,xxx บาทต่อคน
รายละเอียดแยกตามชนิตของ Business unit ที่ได้รายงานตามคำอธิบายผลประกอบการของบริษัทเป็นดังนี้
- ศัลยกรรม 1193.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 126.58%
- ดูแลผิวพรรณ 105.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 170.79 %
- ปลูกผมและดูแลเส้นผม 89.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 285.76%
- การดูแลหลัง จากศํลยกรรม 62.37 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74.56%
- รายได้จากการประกอบกิจกรรมโรงพยาบาลอื่น 31.04 ล้านบาท ลดลง 10.50 %
ในไตรมาส 4 จำนวนชั่วโมงของการใช้ห้องผ่าตัดอยู่ที่ 18 ชั่วโมงต่อวัน โดยมีอัตราการใช้ห้องผ่าตัดอยู่ที่ 93 %
นักลงทุนต้องทำความเข้าใจก่อนว่าการเพิ่มจำนวนของชั่วโมงในการใช้ห้องผ่าตัดต่อวัน ส่งผลต่อรายได้ในทิศทางบวก แต่หากมองส่วนของการทำงานด้านบริการนั้น การทำงานหนักเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดี นี้คือเหตุผลสำคัญที่เราเพิ่มห้องผ่าตัดเพื่อให้เกิดการ Utilize ได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะการทำงานของแพทย์ ที่เป็นเหมือนศิลปินสร้างสรรค์ผลงานที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า
การปรับราคาของทางโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช ใช้อ้างอิงกับราคาตลาดสำหรับหัตถการที่ต้องการใช้วัสดุแบบมียี่ห้อ (Brand pricing) ในส่วนหัตถการแบบมีฝีมือ (Result pricing) จะมีการปรับตามประสบการณ์และความชำนาญของแพทย์
ค่าใช้จ่ายในส่วนของ IP0 ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายทางตรงในการเข้าตลาดจะหักออกจากส่วนเกินทุนและเงินสดไม่ได้กระทบกำไรในส่วนงบขาดทุน แต่จะมีค่าใช้จ่ายในด้านประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมประมาณ 2.5 ล้านบาท และเป็นรายจ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว
การขยายห้องผ่าตัดดำเนินได้ตามแผนการ และพร้อมที่จะให้บริการทั้ง 17 ห้องภายในไตรมาส 2 ปีนี้