18 กรกฎาคม 2566

สำนักพิมพ์มาสเตอร์พีช เปิดตัวหนังสือ ‘Dare to Fail กล้าล้มเหลว’ เราเชื่อ ‘ความล้มเหลวเป็นบันไดขั้นแรกสู่ความสำเร็จ’

บิลลี่ ลิม (Billy Lim) เป็นนักเขียนผู้มีชื่อเสียงชาวมาเลเซีย กล่าวถึงหนังสือ ‘Dare to Fail กล้าล้มเหลว’ ของเขาว่า ไม่ใช่หนังสืออัตชีวประวัติ หรือฮาวทู แต่เป็นหนังสือที่กล่าวถึง ‘อีกแง่มุมหนึ่ง’ ของเรื่องราวแห่งความสำเร็จที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

“โลกเราทุกวันนี้หลงใหลได้ปลื้มกับผู้ชนะและรังเกียจเดียดฉันท์ผู้แพ้ เหมือนว่าเราได้ก้าวสู่ระดับที่ ‘ไม่มีใครสามารถจะกระทำผิดได้’ ทั้งที่มนุษย์เราเรียนรู้จากความผิดพลาดในแต่ละยุคสมัยจนก้าวมาเป็นเราในวันนี้

“คนที่ประสบความสำเร็จจะได้รับการวางภาพพจน์เหมือน ‘ซูเปอร์แมน’ ผู้ปราศจากความผิดพลาด และเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งซึ่งดูไม่น่าจะเป็นไปได้ และอาจนำไปสู่ผลที่ไม่ดีก็เป็นได้ ดังนั้น คนเราจำเป็นต้องเข้าใจว่าความผิดพลาดและความล้มเหลวเป็นเรื่องธรรมดา และเกิดขึ้นได้บ่อยในคนที่ประสบความสำเร็จมากกว่าคนที่มิได้ประสบความสำเร็จ”

เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ บิลลี่ ลิม - ผู้เขียนใช้วิธีการรวบรวมและสัมภาษณ์นักธุรกิจและผู้มีชื่อเสียง พวกเขาพร้อมจะแบ่งปันเรื่องราวอีกด้านของประสบการณ์ที่มี เพื่อถ่ายทอดถึงคนรุ่นใหม่ที่ต้องการประสบความสำเร็จ

บุคคลผู้ยิ่งใหญ่ของโลกล้วนแต่ประสบความล้มเหลวมาแล้วทั้งนั้นก่อนจะก้าวสู่ความเป็นมหาบุรุษ เมื่อคนเราล้มเหลว เราไม่จำเป็นต้องรำพันร่ำไรกับความล้มเหลวนั้น แต่เราต้องยอมรับ ค้นหาเหตุและผลที่ทำให้เป็นเช่นนั้น การรู้ว่าเราผิดพลาดประการใด ย่อมสำคัญกว่าการประสบความสำเร็จโดยไม่รู้ที่มาที่ไป

“ความกล้าที่จะยึดมั่นในความจริงแบบที่เราเข้าใจนั้น ต้องอาศัยความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับตัวเอง โดยยอมรับความผิดพลาดทั้งหมดที่เราเป็นผู้กระทำอย่างหน้าชื่นตาบาน ความผิดพลาดจะถือว่าบาป ก็ต่อเมื่อเราเองไม่กล้าหาญพอที่จะยอมรับมัน”

อาร์ บักมินสเตอร์ ฟูลเลอร์ (R. Buckminster Fuller)
สถาปนิก นักออกแบบ นักประดิษฐ์ และนักเขียนชาวอเมริกัน

“ผมทำผิดมาตลอดชีวิต และถ้าจะมีอะไรช่วยผมได้ นั่นคือว่าครั้งใดทีผมทำผิด ผมไม่เคยที่จะหยุดเพื่อพูดบ่นถึงมัน ผมจะก้าวต่อไปข้างหน้า และทำผิดมากขึ้น”

เจมส์ บี. ดุ๊ก (James B. Duke)
นักธุรกิจชาวอเมริกัน และเป็นผู้ใจบุญผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยดุ๊ก

“ในช่วงเวลาที่ลำบากเหมือนเหล็กกล้าที่อยู่ในเบ้าหลอมจะมีชั่วขณะที่เต็มไปด้วยความเศร้าหมองและความเจ็บปวดเหมือนน้ำบ่าไหลเอ่อล้นในแม่น้ำ ชีวิตมีทั้งช่วงน้ำขึ้นและน้ำลงเหมือนฤดูกาลที่เปลี่ยนไปเป็นวัฏจักร ชีวิตมีทั้งฤดูร้อนที่อบอุ่นและฤดูหนาวที่เยือกเย็น ... แต่เราต้องสามารถยกตัวเองขึ้นจากห้วงเวลาแห่งความผิดหวัง สู้เส้นทางแห่งความหวังและรู้จักเปลี่ยนหุบเขาที่มืดเดียวดายให้กลายเป็นเส้นทางที่สุขสงบและมีแสงสว่าง”

มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ (Mattin Luther King Jr.)
นักต่อสู้เพื่อสิทธิพลเมืองชาวแอฟริกัน-อเมริกัน

‘Dare to Fail กล้าล้มเหลว’ ได้รับการแปลและติดอันดับหนังสือขายดีระดับชาติ ทั้งในฉบับภาษาอังกฤษ เยอรมัน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ อินเดีย รวมถึงฉบับภาษาไทย แปลโดย ศาสตราจารย์ นายแพทย์วันชัย วัฒนศัพท์ และ วันดี พงศ์ปรีดิ์เปรม

สำนักพิมพ์มาสเตอร์พีชภูมิใจที่ได้นำ ‘Dare to Fail กล้าล้มเหลว’ กลับมาอวดตัวใหม่อีกครั้ง หลังจากหนังสือเล่มนี้หายไปจากบรรณพิภพอักษรนานกว่า 20 ปี

“ผมล้มเหลวเร็ว ผมต้องหาทางกลับมา” หมอเส - นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล เกริ่นบอก ก่อนเฉลยหนทางกลับมาจากความล้มเหลวเร็วเมื่อได้อ่านหนังสือ ‘Dare to Fail กล้าล้มเหลว’ จบ

หมอเสรู้จักกับ ‘Dare to Fail กล้าล้มเหลว’ ครั้งแรกจากการล้มในช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ สมัยเรียนจบชั้นมัธยม 3 และสอบต่อชั้นมัธยม 4 ที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยไม่ติด ครั้นกลับไปเรียนต่อโรงเรียนเดิม ในอำเภอเล็กๆ ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี จากเคยอยู่ห้องคิง ผลคือโดนลดขั้นไปอยู่ห้องบ๊วย จากจุดนั้นเขาเสียใจมาก เพราะมันเป็น ‘ความผิดหวังครั้งแรกของชีวิต’

“ผมล้มเหลวเร็ว” หมอเสย้ำ แต่เพราะความล้มเหลวเร็วในวันนั้น ทำให้เขามีวันนี้ วันที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีชที่ตนเองก่อตั้ง ปัจจุบันเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมความงามชั้นนำของเมืองไทยและเอเชีย

“ผมเชื่อว่าเมื่อคุณอ่านหนังสือเล่มนี้จบ คุณจะไม่กลัวความล้มเหลวอีกต่อไป แต่ในความกล้านี้ จงจำไว้ว่า ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม ขอให้มั่นใจนะครับว่าคุณทำแต่ในสิ่งที่ไม่ทำร้ายผู้อื่น แต่เลือกสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อทุกๆ คน”