บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ” หรือ “โรงพยาบาลฯ” หรือ “MASTER”) จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2556 เป็นผู้ประกอบการกิจการสถานพยาบาลเอกชน โดยจดทะเบียนเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางด้วยจำนวนเตียงจดทะเบียน 7 เตียง ภายใต้ชื่อ “โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช” ให้บริการด้านศัลยกรรมเสริมความงาม

โดยนายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล เป็นผู้ก่อตั้งคลินิกความงามในปี 2555 ภายใต้ชื่อ “มาสเตอร์พีชคลินิก” ที่สยามสแควร์ เริ่มต้นจากแพทย์ 1 ท่าน บุคลากร 4 คน และพื้นที่ให้บริการ 384 ตารางเมตร และระหว่างปี 2556 - 2558 บริษัทฯ เพิ่มพื้นที่ให้บริการจนเป็นคลินิกความงามและศัลยกรรมที่ใหญ่ที่สุดในสยามสแควร์ โดยมีทีมแพทย์ 7 ท่าน บุคลากร 190 คน และพื้นที่ให้บริการ 768 ตารางเมตร

ในปี 2561 บริษัทฯ ได้ย้ายสถานที่ประกอบการไปที่อาคารเลขที่ 115/10 ถนนสุโขทัย เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร และได้ยื่นขอใบอนุญาตเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางภายใต้ชื่อโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช เพื่อให้บริการด้านการศัลยกรรมครบวงจรโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มีประสบการณ์และเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในด้านการศัลยกรรม อาทิเช่น ศัลยกรรมเสริมจมูก ศัลยกรรมยกคิ้วและกรอบหน้า ศัลยกรรมหน้าอก ศัลยกรรมดูดไขมันปรับรูปร่าง ศัลยกรรมตา ศัลยกรรมปรับโครงสร้างรูปหน้า เป็นต้น รวมถึงการปลูกผม ดูแลเส้นผม และให้บริการดูแลผิวพรรณและเลเซอร์ ด้วยวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่ทันสมัยและได้รับมาตรฐานระดับสากล โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 โรงพยาบาลมาสเตอร์พีชมีแพทย์ 28 ท่าน บุคลากร 361 คน และพื้นที่ให้บริการ 4,267 ตารางเมตร

ในปี 2565 โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช ได้ทำข้อตกลงกับสถาบันสอนอบรมศัลยแพทย์ชื่อดังของประเทศเกาหลี คือ สถาบัน Korean College of Cosmetic Surgery (KCCS) และสถาบัน Face Design ซึ่งเป็นสถาบันที่ได้รับการยอมรับจากศัลยแพทย์ในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ที่มีความสนใจในการทำศัลยกรรมแบบเทคนิคเกาหลี ทางโรงพยาบาลฯ มีความสนใจในการทำศัลยกรรมเทคนิคดังกล่าวจึงได้ทำข้อตกลงกับทั้งสองสถาบันเพื่อคัดเลือกอาจารย์แพทย์จำนวน 3 ท่าน ที่มีความเชี่ยวชาญด้าน ศัลยกรรมโครงหน้ายุบโหนกตัดกราม ศัลยกรรมตาและจมูก และหัตถการดูแลผิวพรรณ โดยอาจารย์แพทย์ทั้ง 3 ท่าน มาประจำการที่โรงพยาบาลมาสเตอร์พีชและให้คำปรึกษาระหว่างแพทย์กับแพทย์ เพื่อยกระดับการให้บริการศัลยกรรมความงามของโรงพยาบาลมาสเตอร์พีช

ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ท่าน

บุคลากร

คน

พื้นที่ให้บริการ

ตารางเมตร

ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2565

การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการที่สำคัญ

2555

นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ก่อตั้งคลินิกความงามในปี 2555 ภายใต้ชื่อ “มาสเตอร์พีช คลินิก” ที่สยามสแควร์แหล่งชอปปิ้งใจกลางกรุงเทพฯ โดยแรกเริ่มมีขนาดเพียง 1 คูหา มีห้องผ่าตัดเล็ก 1 ห้อง มีแพทย์ 1 ท่านและพนักงาน 4 คน

2556

มาสเตอร์พีชคลินิกขยายพื้นที่ให้บริการเพิ่มเป็น 2 คูหา เพื่อรองรับจำนวนลูกค้าที่มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจดทะเบียนเป็นบริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2556 ด้วยทุนจดทะเบียนและชำระแล้ว 1 ล้านบาท

2557

ขยายพื้นที่เพิ่มเป็น 3 คูหา และขยายเพิ่มเติมอีก 2 คูหา (สาขา 2) รวมทั้งหมดเป็น 5 คูหา เป็นคลินิกเสริมความงามที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสยามสแควร์

2558

ขณะนั้น มาสเตอร์พีชคลินิกเป็นคลินิกเสริมความงามที่ใหญ่ที่สุดที่ตั้งอยู่ใจกลางสยามสแควร์ แต่สถานที่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการรองรับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ทำให้ทางบริษัทเริ่มวางแผนการขยายธุรกิจจากคลินิกมาเป็นโรงพยาบาลเสริมความงาม

2561

มาสเตอร์พีชคลินิกได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล และเปลี่ยนเป็นโรงพยาบาล ภายใต้ชื่อ “โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช” พร้อมทั้งย้ายสถานที่ประกอบการไปที่ถนนสุโขทัย เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร

2562

ออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมทุกรายตามสัดส่วน (RO) จำนวน 100 ล้านบาท และปรับโครงสร้างกลุ่มโดยรับโอนกิจการของบริษัท เกรซวินเนอร์ จำกัด ซึ่งมีนายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล เป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 99.99

2565
  • ออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน 59 ล้านบาท เสนอขายให้ผู้ถือหุ้นเดิม 490,000 หุ้น ที่ราคา 100 บาทต่อหุ้น (มูลค่าที่ตราไว้ 100 บาทต่อหุ้น) และเสนอขายให้กับนักลงทุน 3 ราย รวม 100,000 หุ้น ที่ราคา 1,200 บาทต่อหุ้น รวมเป็นทุนจดทะเบียน 160 ล้านบาท
  • นักลงทุนที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนมูลค่ารวม 120 ล้านบาท มีรายละเอียดดังนี้
    • นายวีรชัย มั่นสินธร จำนวน 37,500 หุ้น มูลค่าเงินเพิ่มทุน 45 ล้านบาท
    • นายปรีชา ส่งวัฒนา จำนวน 37,500 หุ้น มูลค่าเงินเพิ่มทุน 45 ล้านบาท
    • นายมณเฑียร อินทร์น้อย จำนวน 25,000 หุ้น มูลค่าเงินเพิ่มทุน 30 ล้านบาท
  • จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด
  • ออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมทุกรายตามสัดส่วน (RO) จำนวน 30 ล้านบาท และเพิ่มทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท เพื่อรองรับการออกและเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO)